กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย
ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ - National Disaster Warning Center
18.21 น. 04 ต.ค. 66 แผ่นดินไหวในทะเล ขนาด 6.6 ความลึก 130 กม. บริเวณ Mindanao, Philippines ห่างจากไทยประมาณ 2,480 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย 10.35 น. 4 ต.ค. 66 แผ่นดินไหวในทะเล ขนาด 5.8 ความลึก 10 กม. บริเวณ Philippine Islands Region ห่างจากไทยประมาณ 1,705 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย 18.38 น. 03 ต.ค. 66 แผ่นดินไหวในทะเล ขนาด 6.0 ความลึก 10 กม. บริเวณ Southeast of Honshu, Japan ประมาณ 4,683 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย 02.52 น. 25 ก.ย. 66 แผ่นดินไหวบนบก ขนาด 4.0 ความลึก 10 กม. บริเวณประเทศเวียดนาม ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ประมาณ 336 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย 18.14 น. 24 ก.ย. 66 แผ่นดินไหวบนบก ขนาด 4.2 ความลึก 10 กม. บริเวณประเทศเมียนมา ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 235 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย 21.24 น. 23 ก.ย. 66 แผ่นดินไหวบนบก ขนาด 5.1 ความลึก 10 กม. บริเวณประเทศเมียนมา ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 204 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย 18.49 น. 23 ก.ย. 66 แผ่นดินไหวบนบก ขนาด 4.0 ความลึก 10 กม. บริเวณประเทศเมียนมา ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 194 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย 17.56 น. 23 ก.ย. 66 แผ่นดินไหวบนบก ขนาด 3.1 ความลึก 1 กม. บริเวณประเทศเมียนมา ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 75 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย
นายกลวัชร ทรัพย์ส่งสุข
ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

ข่าวสารและกิจกรรม

ข่าวประชาสัมพันธ์

กลุ่ม

ปภ.ปล่อยเรือวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิ เสริมประสิทธิภาพระบบแจ้งเตือนภัย สร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว

15 พ.ย. 65 เวลา 13.30 น. ที่ท่าเรือน้ำลึก ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นประธานในการปล่อยเรือวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดียและทะเลอันดามัน โดยมีนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กงสุลจากประเทศต่าง ๆ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และเครือข่ายอาสาสมัครภัยพิบัติในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมงาน สำหรับการวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิในครั้งนี้เป็นการวางทดแทนทุ่นเดิมในมหาสมุทรอินเดียและทะเลอันดามัน ทั้งนี้ การติดตั้งทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิถือเป็นกลไกหนึ่งในการป้องกันและลดผลกระทบจากภัยสึนามิ เพื่อให้สามารถเตือนภัยได้ล่วงหน้าอย่างรวดเร็ว นำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นในระบบเตือนภัยให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวใต้ทะเลในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้ทำให้เกิดคลื่นสึนามิ สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนประชาชน และสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายฝั่งรอบมหาสมุทรอินเดียเป็นอย่างมาก เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 230,000 คน และมีประเทศที่ได้รับผลกระทบ 4 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย ศรีลังกา อินเดีย และไทย ซึ่งภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบการป้องกันและกำหนดมาตรการลดผลกระทบจากคลื่นสึนามิให้มีประสิทธิภาพ รัฐบาล โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบวิเคราะห์คาดการณ์คลื่นสึนามิและระบบแจ้งเตือนภัยของประเทศให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) จึงได้ติดตั้งทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิ ไว้ 2 จุด จุดที่ 1 ติดตั้งไว้ในมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากเกาะภูเก็ตไปทางทิศตะวันตกประมาณ 965 กิโลเมตร และจุดที่ 2 ติดตั้งไว้ในทะเลอันดามัน ห่างจากเกาะภูเก็ตประมาณ 340 กิโลเมตร ซึ่งการดำเนินการวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิในครั้งนี้ เป็นการวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิชุดใหม่ทดแทนทุ่นเดิม ทั้งในมหาสมุทรอินเดียและทะเลอันดามัน เพื่อให้ทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิมีความพร้อมใช้งานอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพในการส่งต่อข้อมูลไปยังระบบแจ้งเตือนภัยของประเทศ
“การวางระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดียและทะเลอันดามัน ถือเป็นกลไกในการเตือนภัยสึนามิล่วงหน้าให้กับประชาชน เพื่อจะได้ไม่ตื่นตระหนกกับข่าวลือและได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องจากหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งให้ประชาชนสามารถเตรียมความพร้อมในการอพยพหนีภัยสึนามิได้อย่างทันท่วงที และเป็นการสร้างความปลอดภัยแก่ชีวิตของประชาชน ซึ่งทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิที่ดำเนินการติดตั้งในครั้งนี้ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ถ้าหากสามารถช่วยลดความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ อย่างไรก็ตาม ขอฝากหน่วยงานภาครัฐ องค์กรต่าง ๆ สถานประกอบการ อาสาสมัคร เครือข่าย ชาวประมง และประชาชนช่วยสอดส่องดูแลรักษาระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิ รวมถึงหอเตือนภัยและอุปกรณ์เตือนภัยในพื้นที่ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายบุญธรรมกล่าว
สำหรับการวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิทั้ง 2 ตัว ในครั้งนี้ เรือจะออกจากท่าเรือน้ำลึก จังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 เวลา 15.00 น. และจะดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 รวม 14 วัน ซึ่งการวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิในประเทศไทยได้ดำเนินการติดตั้งมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2549 ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการในการแจ้งเตือนภัยสึนามิกับองค์การบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Oceanic and Atmospheric Administration : NOAA) และได้รับมอบทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิจาก NOAA ประกอบด้วย ทุ่นลอยพร้อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Surface Buoy) และชุดอุปกรณ์วัดความดันใต้ท้องทะเล (Bottom Pressure Recorder : BPR) โดยติดตั้งห่างจากเกาะภูเก็ตไปทางทิศตะวันตกประมาณ 965 กิโลเมตร ซึ่งการทำงานของทุ่นจะติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำและส่งผ่านสัญญาณเสียงไปสู่ทุ่นลอยและส่งข้อมูลไปยังดาวเทียม จากนั้นมีการส่งสัญญาณมาที่สถานีรับสัญญาณภาคพื้นดิน และประมวลผลร่วมกับทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิของนานาประเทศ แล้วส่งข้อมูลกลับมายังศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อออกประกาศแจ้งเตือนประชาชน ต่อมาเมื่อเดือนมกราคม 2560 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ดำเนินการติดตั้งทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิเพิ่มเติมเป็นจุดที่ 2 ในทะเลอันดามัน โดยติดตั้งห่างจากเกาะภูเก็ตประมาณ 340 กิโลเมตร ทั้งนี้ ทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิทั้ง 2 จุด มีการบำรุงรักษาตามมาตรฐานของผู้ผลิตอย่างต่อเนื่องทุก ๆ 2 ปี เพื่อให้ทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิมีความพร้อมใช้งานอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ปภ. ยังได้บูรณาการด้านการจัดการสาธารณภัยให้เป็นไปอย่างเป็นระบบ มีหน่วยเผชิญเหตุที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีหน่วยปฏิบัติระดับพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามัน ได้แก่ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา ดูแลพื้นที่จังหวัดสตูล และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ภูเก็ต ดูแลพื้นที่จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง ที่มีความพร้อมในการบริหารจัดการภัยสึนามิในพื้นที่เสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ การติดตั้งทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดียและทะเลอันดามัน ถือเป็นกลไกหนึ่งในการป้องกันและลดผลกระทบจากภัยสึนามิ เพื่อให้สามารถเตือนภัยได้ล่วงหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ประชาชน และนักท่องเที่ยวในพื้นที่ชายฝั่งอันดามันของประเทศไทย และประชาชนในภูมิภาครอบมหาสมุทรอินเดีย มีการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยสึนามิและอพยพหนีภัยได้อย่างทันท่วงที นำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นในระบบเตือนภัยให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว

(ภาพและข่าว - กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ปภ.)