กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย
ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ - National Disaster Warning Center
04.23 น. 4 มิ.ย. 66 แผ่นดินไหวบนบก ขนาด 4.2 ความลึก 10 กม. บริเวณประเทศเวียดนาม ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ประมาณ 342 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย 13.17 น. 3 มิ.ย. 66 แผ่นดินไหวบนบก ขนาด 3.1 ความลึก 1 กม. บริเวณประเทศเมียนมา ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 74 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย 18.20 น. 31 พ.ค. 66 แผ่นดินไหวบนบก ขนาด 5.8 ความลึก 10 กม. บริเวณประเทศเมียนมา ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 621 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย 22.49 น. 24 พ.ค. 66 แผ่นดินไหวในทะเล ขนาด 6.2 ความลึก 166 กม. บริเวณ Banda sea ห่างจากไทยประมาณ 3,378 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย 13.42 น. 23 พ.ค. 66 แผ่นดินไหวในทะเล ขนาด 6.0 ความลึก 10 กม. บริเวณ Southeast of Loyalty Islands ห่างจากไทยประมาณ 8,070 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย 22.45 น. 21 พ.ค. 66 แผ่นดินไหวบนบก ขนาด 6.2 ความลึก 10 กม. บริเวณ Solomon Islands ห่างจากไทย ประมาณ 6,763 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย 08.50 น. 20 พ.ค. 66 แผ่นดินไหวในทะเล ขนาด 7.4 ความลึก 10 กม. บริเวณ Southeast of Loyalty Islands ห่างจากไทย ประมาณ 8,095 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย 09.57 น. 19 พ.ค. 66 แผ่นดินไหวในทะเล ขนาด 7.8 ความลึก 10 กม. บริเวณ Southeast of Loyalty Islands ห่างจากไทย ประมาณ 8,120 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

ความเป็นมา ศภช.

 
ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

ความเป็นมา

_____ประเทศไทยจัดว่าเป็นพื้นที่หนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซี่งในแต่ละปีต้องเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาตินานัปการ แต่ละปีมีความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินนับไม่ถ้วน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีหน่วยงานที่มีภารกิจด้านการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัยพิบัติเป็นการเฉพาะ เพื่อให้ประชาชนและทุกภาคส่วนของประเทศเกิดจิตสำนึกและความตระหนักรู้ เตรียมพร้อมรับมือได้อย่างทันเหตุการณ์ ทันต่อเวลา และลดความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติลงได้

_____“ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ” ก่อกำเนิดขึ้นอันสืบเนื่องจากเหตุการณ์คลื่นสึนามิในภาคใต้ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ซึ่งเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยร้ายแรงที่สุด รัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญของการเตือนภัยล่วงหน้า จึงได้ตั้งคณะกรรมการศึกษาระบบการเตือนภัยล่วงหน้าขึ้น ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 16/2548 ลงวันที่ 11 มกราคม 2548 และคณะกรรมการศึกษาระบบการเตือนภัยล่วงหน้า ได้มีคำสั่งที่ 17/2548 ลงวันที่ 8 เมษายน 2548 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหารการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติขึ้น โดยมีอำนาจหน้าที่บริหารจัดการระบบการเตือนภัย ออกกฎระเบียบเกี่ยวกับการเตือนภัย การบริหารและควบคุมการปฏิบัติงานของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ และได้มีระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ พ.ศ.2548 กำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เรียกโดยย่อว่า “กภช”   โดยมีรองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธาน กรรมการเป็นหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง/กรมที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้มีศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เรียกโดยย่อว่า “ศภช.” เป็นหน่วยงานทำหน้าที่ในฐานะเป็นฝ่ายปฏิบัติและเลขานุการของ “กภช” อยู่ภายใต้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นส่วนราชการระดับกรมในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในระยะแรกมีสำนักงานเดิมตั้งอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์  ตำบลบางกระสอ  อำเภอเมือง  จังหวัดนนทบุรี โดยจัดให้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2548

_____ต่อมาได้มีระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 ให้ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติเป็นหน่วยงานภายในสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และได้มีระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ พ.ศ. 2552 ให้ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ พ.ศ. 2548 และระเบียบฯ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 ให้ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติเป็นหน่วยงานภายในสำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยมีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวงฯ พ.ศ. 2551 และสำนักงานปลัดกระทรวงฯ ได้มีคำสั่งที่ 663/2552 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2552  กำหนดการแบ่งส่วนราชการภายใน ศภช. ออกเป็น 4 กลุ่มงาน 1 ศูนย์ และ 1 ฝ่าย และตั้งอยู่ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ ชั้น 6 อาคารรัฐประศาสนภักดี และมีศูนย์ปฏิบัติการที่บางนาภายในบริเวณเดียวกันกับกรมอุตุนิยมวิทยา และท้ายสุดพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวงทบวงกรม (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2559 มาตรา 18 และ 19 ให้โอนอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง และมติคณะรัฐมนตรีของสำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมทั้งบรรดากิจการ ทรัพย์สิน งบประมาณ สิทธิ หนี้ ภาระผูกพัน ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้างและอัตรากำลัง เฉพาะศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติไปเป็นของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย

_____ปัจจุบันศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติมีที่ตั้งอยู่ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ถ.อู่ทองนอก และมีศูนย์ปฏิบัติการที่บางนาภายในกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งเป็นอาคารสถานที่หน่วยปฏิบัติการโดยเฉพาะ มีเจ้าหน้าที่ผลัดเวรกันอยู่ประจำตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อทำหน้าที่เฝ้าระวัง และแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าให้แก่ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง